การประกวดนางงามเชียงใหม่ ๒๔๘๐ ภายในงานฉลองรัฐธรรมนูญ นับเป็นปีที่ ๔ ของการจัดประกวดสาวงามผู้ชนะใจกรรมการตัดสินครั้งนั้นได้แก่ นางสาวบัวเที่ยง พรหมชนะ 
โดยมีนางสาว ศรีวรรณ กันยาอินทร์ เป็นรองนางงาม นางสาวบัวเที่ยง พรหมชนะ เกิดเมื่อพ.ศ. ๒๔๖๔ ที่อำเภอสันกำแพง ครอบครัวมีธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมสิ่งทอ เป็นอดีตศิษย์เก่า
วัฒโนทัยพายัพเชียงใหม่ และอดีตนักเรียนเก่า โรงเรียนฝึกหัดครู จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบุตรสาวคนที่ ๕ ของพ่อหนานคำ และ แม่บัวเขียว พรหมชนะ ผู้เป็นเจ้าของร้านพรหมชนะ 
เข้าประกวดนางงามเชียงใหม่ภายในฉลองรัฐธรรมนูญ เชียงใหม่ ๒๕๘๐ โดยได้รับตำแหน่งชนะเลิศ ขณะอายุเพียง ๑๖ ปี 

     นางสาวบัวเที่ยง เป็นสตรีที่มีรูปร่างสัดส่วน ผิวพรรณดี ปาก จมูก คิ้ว ตา สัดส่วนรับกับใบหน้ารูปไข่ จนมีคนต่างเข้ามา
ยลโฉมเธอที่ร้านพรหมชนะ สันกำแพงเป็นจำนวนมากทำให้ร้านพรหมชนะโด่งดังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ต่อมาได้สมรสกับ 
ร้อยเอก อเนก สืบวงศ์แพทย์ นายทหารฝ่ายเสนาธิการ กองทัพบก สุภาพสตรีท่านนี้ทำให้คนเชียงใหม่กล่าวขวัญถึงความงาม
ชองสาวงามในสกุลพรหมชนะ เป็นจุดเริ่มต้นที่มีคนกล่าวขวัญและขนานนามอำเภอสันกำแพงให้เป็นแดนคนงามนั่นเอง

    "ตอนนี้ยายอายุ ๘๕ ปี แล้วคะตอนที่ประกวดนางงามอายุยังน้อยมาก ยังเป็นเด็กนักเรียนอยู่เลย...ที่ได้ไปประกวดเพราะทางอำเภอ
ติดต่อผ่านคุณพ่อมาค่ะเขาอยากให้ยายไปประกวดในนามของอำเภอสันกำแพง พอได้ตำแหน่งนางงามเชียงใหม่ เลยมีคนมาดูตัวที่ร้าน
พรหมชนะเยอะมากเลย พลอยทำให้ที่ร้านขายของดีและเป็นที่รู้จักทั่วไปค่ะ"
    นางสาวบัวเที่ยง พรหมชนะ หรือ นางอุบลวรรณ สืบวงศ์แพทย์ ในปัจจุบัน ได้เล่าถึงประสบการณ์และความประทับใจ 
ตลอดจนความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรติบนเวทีประกวดความงามที่เก่าแก่และยาวนานมากกว่า ๗๐ ปี
ี้สร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลและธุรกิจของครอบครัวเป็นอย่างมาก

     "ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๘๘ ยายได้สมรสกับสามี ร้อยเอกอเนก สืบวงศ์แพทย์ค่ะ พอหลังจากแต่งงานก็ได้ย้ายตามสามี ซึ่งรับราชการ ต้องมีภารกิจปฏิบัติหน้าที่ไปตามจังหวัดต่างๆ
มากมายค่ะ จนมีบุตรด้วยกัน ๓ คน ช่วงนี้ยายสุขภาพแข็งแรงดีค่ะ อยู่กับลูกหลานมีความสุขดีค่ะ" 
     คุณอเนกและคุณอุบลวรรณ สืบวงศ์แพทย์ มีบุตรดัวยกัน ๓ ท่าน คือ คนโตชื่อ นายดนัย สืบวงศ์แพทย์  คนรองชื่อ นายอนันต์  สืบวงศ์แพทย์ และคนสุดท้อง คือ นางสิริบังอร  สืบวงศ์แพทย์ 
ซึ่งปัจจุบันได้ทำกิจการร้านอาหารเสต็กลาวมีทั้งหมด ๓ สาขา คุณยายบัวเที่ยงปัจจุบันพำนักอยู่ย่านบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันอายุได้ ๘๕ ปี สุขภาพร่างกายยังแข็งแรงดี