ข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันจันทร์ที่ 1 มกราคม 2511 ได้ลงข่าวเก็ง 15 สาวงามผู้เข้าประกวดนางสาวเชียงใหม่ อันเป็นส่วนหนึ่งของงานฤดูหนาวประจำจังหวัดเชียงใหม
่ที่ถูกยกย่องว่าเป็นงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่มโหฬารกว่างงานใด ๆ ในเขตภาคเหนือซึ่งมีการจัดงานตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2510 ถึง 6 มกราคม 2511 ในการคัดเลือกสาวงามตลอด 7 วัน เป็น
การประกวดสลับวันระหว่างการประกวดนางสาวเชียงใหม่และนางสาวถิ่นไทยงามเช่นเดิม การประกวดนางสาวเชียงใหม่ได้กำหนดให้มีการประกวดในวันที่ 31 ธันวาคม 2510 และ 
2 มกราคม 2511 แบ่งเป็นคืนละ 29 คน และจะคัดไว้คืนละ 12 คน จากสาวงามเข้าร่วมประกวดทั้งหมดจำนวน 58 คน และทำการตัดสินในวันที่ 4 มกราคมส่วนการประกวดนางสาวถิ่นไทย
งามมีการประกวดรอบแรกวันที่ 1 และ 3 มกราคมโดยมีการตัดสินในวันที่ 6 มกราคม อันเป็นวันสุดท้ายของงานฤดูหนาว โดยสาวงามที่ได้รับตำแหน่งสาวงามที่เป็นที่สุดของภาคเหนือได้แก่ 
นางสาวประกายคำ วิจันทรา โดยเธอได้รับพระราชทานถ้วยรางวัลจากสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีอีกด้วย

      ในค่ำคืนสุดท้ายของการประกวดนางสาวเชียงใหม่ สาวงามผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 19 คนโดยมีผู้สละสิทธิ์จำนวน 5 คน 
ได้เดินประกวดในชุดอาบน้ำจากนั้นคณะกรรมการได้คัดเลือกสาวงามเข้าสู่รอบ 10 คน และ 5 คนสุดท้ายตามลำดับจนกระทั่ง
เวลา 00.25 น. นายเลิศ จุฬารัตน์ รองประธานกองประกวดนางสาวเชียงใหม่ได้ประกาศผลการตัดสินนางสาวเชียงใหม่ 2511
ได้แก่ หมายเลข 12 นางสาวเนตรทราย ชลาธาร อายุ 20 ปี สูง 163 สัดส่วน 34-22-37 บริษัทโชคชัยเอ็น- จิเนียริ่งส่งเข้าประกวด
และรองนางสาวเชียงใหม่ 4 คนได้แก่ นางสาวอุษณา พรวรรณา ร้านกรุงเทพสาขา 2 ส่งเข้าประกวด นางสาวจุไรพร วรนันท์ 
ร้านตัณตราภัณฑ์ส่งเข้าประกวด นางสาวศิริเนตร เลิศปัญญา อำเภอดอยสะเก็ดส่งเข้าประกวดและนางสาวปนัดดา ศรีวิชัย 
อำเภอสันทรายส่งเข้าประกวดจากนั้นเจ้าทิพวัน ณ เชียงใหม่เป็นผู้สวมมงกุฎและสายสะพายประจำตำแหน่งให้แก่นางสาว
เชียงใหม่และรองทั้ง 4 เนตรทราย ชลาธาร นางสาวเชียงใหม่ 2511 หรือนามเดิมวิไล คำฤทธิ์ มีเชื่อเล่นว่า “ อ้อ ” 
เธอเป็นชาวเชียงใหม่โดยกำเนิดบิดาชื่อนายสมบูรณ์ มารดาชื่อนางจันทร์ฟอง คำฤทธิ์ เป็นเจ้าของโรงงานทำหมวกไทยพานิช 
ที่อำเภอหางดง เธอเป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวน 4 คน ขณะรับตำแหน่งจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนพระหฤทัย
คอนแวน เมื่อปี 2507 และจบการบัญชีจากโรงเรียนพรหมภูเบศร์การบัญชีในปี 2510 จากนั้นเดินทางไปอบรมการทำตุ๊กตาไทย
ที่กองค้นคว้าพระนครและสามารถพูดภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสได้ดี

    หลังจากรับตำแหน่งเนตรทรายได้ไปประจำอยู่ที่ร้านขายสินค้าพื้นเมือง “ พัชรินทร์ ” ที่ถนนท่าแพ อำเภอเมือง เชียงใหม่จนกระทั้งปลายปี 2511 
ในงานวชิราวุธานุสรณ์เธอได้เข้าร่วมประกวดนางสาวไทยได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนให้เป็นหนึ่งในตัวเก็ง และคว้าตำแหน่งรองนางสาวไทยมา
ในที่สุดโดยพ่ายแก่แสงเดือน แม้นวงศ์ ผู้ครองนางสาวไทย 2511