จันทร์ฉาย วรมิตร์ นางสาวเชียงใหม่ ปี ๒๕๐๓ |
ที่มาของข้อมูล
วิเวศ วัฒนสุข. 2549. 8 ทศวรรษดอกเอื้องเวียงพิงค์สายสัมพันธ์แห่งอารยธรรม.กรุงเทพฯ : ม.ป.พ.
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ชาวไทยทั่วประเทศต่างรอคอยเทศกาลอันสนุกสนานนี้ด้วยใจจดใจจ่อ ซึ่งนอกจากจะมีวันหยุดติดต่อกันหลายวันแล้ว ยังนับว่าเป็นวันที่คนในครอบครัวจะได้มาพบ
กันพร้อมหน้าอีกด้วย ในขณะที่ทั่วไประเทศกำลังต้อนรับเทศกาลปีใหม่อยู่นั้นชาวจังหวัดเชียงใหม่ก็ใจจดจ่อในการรอคอยงานประจำปีที่กำลังเวียนมาถึงอีกครั้งหนึ่งได้แก่ งานรื่นเริงฤดูหนาว
ประจำจังหวัดนั่นเองในปีนี้มีหน่วยราชการทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคเข้าร่วมแสดงนิทรรศการจำนวนมากมายหลายหน่วยงาน อาทิการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่
ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคเหนือและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บริษัทเดินอากาศไทยจำกัด สาขาเชียงใหม่เป็นต้นการประกวดนางสาวเชียงใหม่
นั้นมีการประกวดสลับกับนางสาวถิ่นไทยงามเช่นปีก่อน ๆ โดยมีการประกวดรอบแรกในวันที่ 1 และ 3 มกราคม และรอบตัดสินในวันที่ 6 มกราคม 2503 อันเป็นวันสุดท้ายของงานโดย
นางสาวถิ่นไทยงามประจำปี 2503 ได้แก่สาวงามผู้สูงศักดิ์หม่อมราชวงศ์หญิง บุปผา เกษมสันต์
|
|
![]() |
ส่วนในค่ำคืนสุดท้ายในการประกวดนางสาวเชียงใหม่บรรดาเหล่าสาวงามผู้ผ่าฟันมาถึงรอบสุดท้าย 16 คน ได้เดินปรากฎกายในชุดอาบน้ำให้คณะกรรมการ
คัดเลือกให้เหลือเพียง 10 คนและคัดให้เหลือเพียง 5 คนตามลำดับ เพื่อคัดเลือกในการประกาศผลผู้ชนะเลิศและรองนางงามในช่วงสุดท้ายของงานในเวลาใกล้เที่ยงคืน
นายทิม โชตนา ประธานแผนกกองประกวดนางสาวเชียงใหม่ได้ก้าวขึ้นบนเวทีและประกาศชื่อผู้ครองตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่ 4 นางสาว ได้แก่ นางสาวจันทร์ฉาย วรมิตร์
โดยรองนางสาวเชียงใหม่ 4 นางสาวได้แก่ นางสาวพรทิพย์ เฉลิมวงศ์ นางสาวอัญชลี บุญกมล นางสาวสุพัตรา คันธา และนางสาววาสนา พิงครักษ์ หลังจากรับตำแหน่ง
เพียงไม่กี่วันนางสาวเชียงใหม่นางสาวจันทร์ฉาย วรมิตร์และนางสาวถิ่นไทยงามประจำปี 2503 หม่อมราชวงศ์หญิงบุปผา เกษมสัน ได้เดินทางเยื่อนกรุงเทพมหานคร
ในการโชว์ตัวและออกรายการสัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 อีกด้วย
|