ในการประกวดนางสาวเชียงใหม่ประจำปี 2529 การจัดงานครั้งนี้ทางจังหวัดได้รับความร่วมมือจากสโมสรไลออนส์ (โฮสท์) เข้าร่วมจัดงานเป็นปีแรก โดยจัดประกวดแบ่งเป็นสองรอบ
โดยแบ่งเป็นรอบคัดเลือกระหว่างวันที่ 2-7 มกราคม 2529 และรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 8 มกราคม 2529 ส่วนยอดสาวงามผู้สมัครเข้าประกวดในปีนี้มีมากถึง 79 คนและคณะกรรมการได้ทำ
การคัดเลือกเพื่อชิงชัยตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่ในคืนสุดท้ายให้เหลือเพียง 22 สาวงาม การประกวดในคืนสุดท้ายได้เริ่มต้นเมื่อเวลา 21 นาฬิกาเศษท่ามกลางประชาชนผู้นิยมความงามแน่น
ขนัดทั่วบริเวณสถานที่จัดประกวดส่วนผู้ที่ไม่ได้เข้าชมบริเวณงานสามารถรับชมผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ลำปาง หลังจากการเดินโชว์โฉมให้คณะกรรมการลงคะแนนเพื่อคัดให้เหลือเพียง 
10 คนผ่านพ้นไปได้มีการประกาศผล “ ขวัญใจลอยฟ้า ” ได้แก่หมายเลข 53 นางสาวปิ่นเพชร ถนอมทรัพย์ จากนั้นพิธีกรได้ประกาศผลสาวงามผู้ผ่านเข้ารอบ 10 คน พร้อมตำแหน่งพิเศษอีก 
3 ตำแหน่งประกอบด้วย ขวัญใจสื่อมวลชน ได้แก่หมายเลข 68 นางสาววรรณวิภา แปงใจ และเธอยังได้ตำแหน่งธิดาหงส์ล้านนาอีก 1 ตำแหน่งและตำแหน่งพิเศษตำแหน่งสุดท้ายได้แก่ นางงาม
ผิวเนียน สาวงามหมายเลข 1 ประทุมวดี ประทุมวัน เป็นผู้ครองไปในที่สุด 

    ในเที่ยงคืนเศษเหล่าสาวงามทั้ง 10 คนได้ออกมาปรากฏกายหน้าเวทีเพื่อฟังการประกาศผู้ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายโดยคณะกรรมการการตัดสินได้มีมติ
ให้หมายเลข 52 นางสาวจันทิพา ไชยวารินทร์ ครองมงกุฎในตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่ 2529 รองอันดับที่ 2 หมายเลข 57 นางสาว นงคราญ จ้าวเงินตรา 
รองอันดับที่ 3 หมายเลข 68 นางสาววรรณวิภา แปงใจและหมายเลข 45 นางสาววิไลพร พรหมใจ เป็นรองอันดับที่ 4 เสร็จสิ้นการประกาศผล ผศ.วนิดา พูนศิริวงศ์
ภริยาผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ขึ้นสวมมงกุฎและมอบรางวัลแก่สาวงามทุกคน
       จันทิพา ไชยวารินทร์ นางสาวเชียงใหม่ 2529 มีชื่อตามบัตรประชาชนว่า สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงษ์ เป็นชาวกรุงเทพมหานคร ขณะรับตำแหน่งอายุ 19 ปี สัดส่วน 
34-24-36 สูง 169 เซนติเมตร เธอเป็นนักกีฬาเหรียญทองสู่มงกุฎนางงามและประสบความสำเร็จบนเวทีประกวดต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งเวทีระดับนานาชาติ 
สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงษ์ หรือคุณปูได้กล่าวย้อนไปเมื่อ 20 ปีที่แล้วกับจุดเริ่มต้นของการเป็นนางงาม“ ก่อนหน้าที่จะเป็นนางงามปูเป็นนักกีฬาว่ายน้ำมาก่อนค่ะ 
จากนั้นเริ่มเข้าประกวดนางงามประมาณ ปี พ.ศ. 2527 ได้เจอพี่เลี้ยงที่ดีเจอสปอนเซอร์ที่ดีจากนั้นก็ไปประกวดหลายเวทีค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการประกวดโดย
ใส่ชุดไทยจนกระทั่งปี พ.ศ. 2529 ถึงได้เริ่มเข้าประกวดนางงามประจำจังหวัดก็มีที่สุราษฎร์ธานีและที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นเวทีค่อนข้างใหญ่พอสมควรแล้วก็ใส่เป็นชุด 

          ว่ายน้ำเดินประกวดและถือว่าเป็นปีที่ปูประสบความสำเร็จในชีวิตมากเพราะประกวดได้ตำแหน่งที่ 2 เวทีส่วนการประกวดนางสาวเชียงใหม่สนุกสนานมากเพราะว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่
เปลี่ยนชื่อเป็น“ จันทิพา ไชยวารินทร์ ค่ะ ” ก่อนหน้าที่ปูใช้ชื่อจริงนามสกุลจริงคือ “ สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงษ์ ” มาตลอด แต่มาประกวดนางสาวเชียงใหม่เลยขอเปลี่ยนให้ชื่อดูเหนือ ๆ หน่อย เพราะ
ว่าเราไม่ใช่คนเหนือและตอนนั้นหลักเกณฑ์การประกวดยังไม่ได้เข้มงวดมากนักและนางงามในยุคนั้นส่วนใหญ่มักใช้ชื่อแฝงในการประกวดค่ะ ” แม้จะต้องฝ่าด่านสาวเหนือที่เข้าประกวดนางสาว
เชียงใหม่หลายคนแต่เธอก็ก้าวมาถึงรอบสุดท้าย “ ตอนเข้ารอบสุดท้าย 5 คน อีก 4 คนเป็นคนเหนือหมดเลย แต่มีปูคนเดียวที่เป็นคนกรุงเทพฯ แล้วเป็นคนที่ผิวสีคล้ำที่สุด ผู้ใหญ่ในกองประกวด
หลายคนบอกว่า ถ้าเกิดให้ปูได้ที่หนึ่งจะต้องเกิดปัญหาแน่นอน ตอนนั้นผู้ว่าไชยา พูนศิริวงศ์ ท่านเป็นประธานกองประกวด ท่านบอกว่าการที่จะไม่ให้มาประกวดต้องบอกตั้งแต่ครั้งแรกที่มาสมัคร
นี่จนถึงรอบห้าคนแล้วจะให้ลงจากเวทีเพราะว่าเขาไม่ใช่คนเหนือไม่ได้ สุดท้ายแล้วปูก็ได้คือความแตกต่างกันค่อนข้างสูง คนเชียงใหม่ที่อยู่หน้าเวทีเขาก็พูดเป็นภาษาเหนือว่า นางสาวเชียงใหม่
่ผิวสีมอย ๆ (หัวเราะ) ”

      แม้การประกวดนางสาวเชียงใหม่ครั้งนั้นจะเป็นตำแหน่งที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตการประกวดนางงามที่เธอได้รับมา แต่มีอีกหนึ่งเวทีที่เธอใฝ่ฝันจะสัมผัสคือการประกวดนางสาวไทย “ เวทีนี้
ก็หวังนะคะคือถ้าเกิดไม่หวังก็คงจะไม่มาประกวด แต่ว่าจะเป็นไปได้แค่ไหนก็แล้วแต่ดวงชะตาและวาสนาจะพาไป ถึงแม้จะได้รองอันดับหนึ่งจากการประกวด ปูก็ถือว่าประสบความสำเร็จ
ค่อนข้างสูงเพราะได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปประกวดมิสเอเชียแปซิกฟิก 1986 ที่ฮ่องกงแล้วก็ได้รองอันดับสองกลับมาและจากนั้นทางประเทศญี่ปุ่นก็ติดต่อมาขอให้ไปเป็นทูตเสรีภาพ
ที่ฮิโรชิม่า ซึ่งนับเป็นเกียรติกับตัวเองและครอบครัวมากค่ะ จากนั้นก็จบชีวิตการเป็นนางงาม (ยิ้ม) ”
      หลังจากหันหลังให้กับเวทีการประกวด คุณปูได้เข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะดารานักแสดงที่มีผลงานมากมายระยะหนึ่งก่อนไปเรียนด้านภาษาที่ประเทศอังกฤษและสำหรับการเป็นนางงาม
จะเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติและสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ตัวเธอและวงศ์ตระกูล แต่สำหรับตัวเธอการประกวดได้ให้อะไรมากกว่านั้น“ ปูคิดว่าได้อะไรมากมายเลยค่ะ จากที่เราเป็นเด็กนักเรียน
ธรรมดาได้มีโอกาสรู้จักผู้คนมากขึ้นมีโอกาสในการทำงานด้านบันเทิงหรืองานต่าง ๆ อีกมากมายจะว่าไปแล้วเวทีนางงามก็เป็นบันไดสู่ความสำเร็จในชีวิตขั้นหนึ่งของผู้เข้าประกวด แต่ขึ้นอยู่
ู่กับว่าจะให้เกื้อกับตัวเราอย่างไรเท่านั้นเอง ดีก็ดีไม่ดีก็มีหลายแบบทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับตัวเราเป็นสำคัญค่ะ ” 

      และในปัจจุบันแม้เธอจะมีฐานะที่เรียกได้ว่ามีความเป็นอยู่อย่างสะดวกสบายจากการทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่คุณปูก็ยังดำเนินกิจการเล็ก ๆ ที่อยู่ภายในบริเวณบ้านของเธอเอง
กับร้านก๋วยเตี๋ยว “ เส้นใหญ๋ ” ที่มีลูกค้าแน่นร้านทุกวัน