งานฤดูหนาวจังหวัดเชียงใหม่ได้เริ่มขึ้นในวันที่ 31 ธันวาคม 2509 อย่างคึกคักสนุกสนาน ด้านสาวงามผู้เข้าประกวดนางสาวเชียงใหม่และนางสาวถิ่นไทยงามรวมทั้งสิ้น 56 คน
และสถานที่ประกวดภายในบริเวณสนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่โดยย้ายเวทีประกวดมาสร้างนอกอาคารยิมเนเซียม สร้างอย่างกว้างขวางใหญ่โต การตัดสินนางสาวเชียงใหม่กำหนด
ให้มีขึ้นในวันที่ 4 มกราคมและนางสาวถิ่นไทยงามในคืนวันที่ 6 มกราคม อันเป็นวันสุดท้ายของการจัดงาน โดยสาวงามผู้พิชิตมงกุฎนางสาวถิ่นไทยงาม 2510 ได้แก่ นางสาว พิสมัย ไกรมา 
สาวงามจากสันกำแพงแดนคนงามในค่ำคืนวันที่ 4 มกราคม 2510 เป็นวันตัดสินรองชิงชนะเลิศของการประกวดนางสาวเชียงใหม่หลังจากมีการคัดเลือกในรอบแรกจำนวน 24 คนจากการ
ประกวดในวันที่ 31 ธันวาคม 2509 และวันที่ 2 มกราคม 2510 และปรากฏว่ามีสาวงาม 3 คนสละสิทธิในกากรประกวดเนื่องจากเลือกที่จะไปประกวดนางสาวถิ่นไทยงามในรอบสุดท้ายเพียงเวที
ีเดียวและในเวลา 00.51 นาย ทิม โชตนา ประธานกองประกวดได้นำซองการตัดสินจากคณะกรรมการออกมาประกาศผลหน้าเวทีผลปรากฏว่านางสาว รุ่งทิพย์ ภิญโญ ผู้มีอายุ 18 ปี สูง 163 ชม
สัดส่วน 36-22-26 ร้านชินวัตรสันกำแพง ส่งเข้าประกวดได้เป็นนางสาวเชียงใหม่ โดยมีรองอีกสี่นางสาวประกวดด้วยนางสาว พินนะรัฐ ทะนันไชย นางสาว พรมวัลย์ บุญเรือง นางสาวสรัญญา 
สิทธิวงศ์และนางสาวแจ่มจันทร์ มาลการ

      รุ่งทิพย์ ภิญโญ เป็นชาวบ้านธิ จังหวัดลำพูน เธอมีชื่อจริงว่านางสาว บัวเงิน ปัญโญใหญ่ เกิดเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2491 บิดาชื่อนายหล้า มารดาชื่อ
นาง เมา มีอาชีพเป็นเกษตรกร มีพี่น้อง 5 คน โดยเธอเป็นคนสุดท้อง จบการศึกษาระดับชั้นประถมที่โรงเรียนบ้านธิ โดยต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่ร้านชินวัตร
สันกำแพงเชียงใหม่และเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนมัธยมสันกำแพงจนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเข้าประกวดนางสาวเชียงใหม่ไม่นานรุ่งทิพย์ได้ครอง
ตำแหน่งนางสาวสันกำแพงรุ่งทิพย์เป็นนางสาวเชียงใหม่ที่เป็นที่ชื่นชมของชาวเชียงใหม่เป็นอย่างมากเนื่องจากเธอมีความงามที่ไม่เป็นรองใครจนได้รับการ
สนับสนุนจากจังหวัดเชียงใหม่ให้ประกวดนางสาวไทย 2510 และสามารถครองตำแหน่งรองนางสาวไทยที่มีนางสาวอภัณตรี ประยุทธเสนีย์ เป็นนางสาวไทย 
จากนั้นเธอยังได้รับการสนับสนุนจากนาย มินิต ศรีสาคร เจ้าของร้านชาร์มมิ่งมูน สถานเสริมความงามชื่อดังส่งเข้าประกวด Miss International ที่กรุงโตเกียว
ประเทศญี่ปุ่นและสาวไทยอย่างเธอก็ไม่ทำให้คนไทยผิดหวังสามารถรับรางวัลจากการประกวดครั้งนั้นมาถึง 2 ตำแหน่งคือ Miss Photogenic และรองอันดับ 
4 Miss international มาฝากคนไทยเป็นผลสำเร็จ