จดหมายเหตุเสด็จพระราชดำเนิรเลียบมณฑลฝ่ายเหนือ พระพุทธศักราช 2469 . 2474.
พระนคร : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร . หนังสือจดหมายเหตุเรื่องนี้ รองอำมาตย์ตรี กมล มโนชญากร จ่าจังหวัดน่าน รวบรวมจากข่าวที่ประกาศเป็นทางราชการ และรายงานของจังหวัดที่ได้จัดการรับเสด็จ โดยบัญชาของพยาราชกูลวิบูลย์ภักดีพิริยพาหะ ( อวบ เปาโรหิตย์ )สมุหเทศาภิบาล สำเร็จราชการมณฑลพายัพ หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมเหตุการณ์ตั้งแต่การเตรียมการ ก่อนเสด็จจนถึงการเสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑลฝ่ายเหนือ อันได้แก่ มณฑลพิษณุโลก เมืองแพร่ เมืองนครลำปาง เมืองเชียงราย เมืองเชียงแสน นครเชียงใหม่ เมืองนครลำพูน ตลอดจนเสด็จเยี่ยมโรงพยาบาลและโรงเรียนของ คณะมิชชันนารี รวมเวลาเสด็จพระราชดำเนิรเลียบมณฑลฝ่ายเหนือ ทั้งไปและกลับ ในคราวนี้ 32 ราตรี
ดำรงราชานุภาพ , สมเด็จกรมพระยา . 2470. อธิบายระยะทางล่องลำน้ำพิง
ตั้งแต่เมืองเชียงใหม่จนถึงปากน้ำโพธิ์ . กรุงเทพฯ : หอพระสมุดวชิรญาณ . หนังสือเล่มนี้ รองเสวกเอก พระโสภณอักษรกิจ พิมพ์ถวายสนองพระคุณพระ วิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฎฯ เพื่อเป็นหนังสืออธิบายระยะทางที่พระวิมาดาเธอฯ จะเสด็จขึ้นไปประพาสมณฑลพายัพในปี พ . ศ .2470 เนื้อหาเป็นการเล่าเรื่องการล่อง น้ำปิงในแต่ละวัน ตั้งแต่เมืองนครเชียงใหม่จนถึงปากน้ำโพธิ์ ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพครั้งไปเที่ยวมณฑลพายัพ แล้วล่องลงมาทางเรือ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 8 มีนาคม 2464 นับเป็นหนังสือที่มีคุณค่าทางภูมิศาสตร์เล่มหนึ่ง
บุญช่วย ศรีสวัสดิ์ . 2498. ลื้อคนไทยในประเทศจีน ( ไทยสิบสองปันนา
เล่ม 2). พระนคร : โรงพิมพ์รับพิมพ์ . เป็นหนังสือที่ บุญช่วย ศรีสวัสดิ์ ได้เขียนขึ้นต่อจากหนังสือไทยสิบสองปันนา เล่ม 1 เนื้อหาภายในเล่มกล่าวถึง จารีตประเพณี วัฒนธรรม ภาษา พิธีกรรม ฯลฯ ของชาวไทยลื้อ หรือไตลื้อที่อาศัยอยู่ในแคว้นสิบสองปันนาทางตอนใต้ของมณฑล ยูนนาน หนังสือเล่มนี้ช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรม จารีต ประเพณีต่าง ๆ ของชนเผ่าไทยในต่างประเทศ
บุญช่วย ศรีสวัสดิ์ . ม.ป.ป. ไทยสิบสองปันนา . เล่ม 1. พระนคร : โรงพิมพ์
รับพิมพ์. เนื้อเรื่องในหนังสือกล่าวถึงเรื่องราวของชาวไทยลื้อที่อาศัยอยู่ในแคว้น สิบสองปันนามณฑลยูนนาน ประเทศจีน โดยบรรยายถึงสภาพของการปกครอง ภูมิประเทศ ประวัติ และตำนานเมือง รวมถึงพิธีเลี้ยงเทวดาเมือง นับเป็นหนังสือ ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับชนชาติไทยที่อาศัยในตอนใต้ของประเทศจีน
จดหมายเหตุเรื่องปราบขบถเวียงจันท์ . 2469. พระนคร : โรงพิมพ์โสภณ
พิพรรฒธนากร. หนังสือเล่มนี้ ได้รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับการเกิดขบถเวียงจันท์ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีรายละเอียดเริ่มตั้งแต่ พงศาวดารเมืองเวียงจันท์ก่อนเกิดขบถ สาเหตุที่เกิดขบถเวียงจันท์จนถึงการปราบ ขบถเวียงจันท์ ในปี พ.ศ. 2370 นอกจากหนังสือเล่มนี้จะให้คุณค่าทางด้าน ประวัติศาสตร์แล้วยังให้ความรู้เรื่องวิธีการสู้รบในสมัยนั้นอีกด้วย
ดำรงราชานุภาพ,กรมพระ. 2459. จดหมายเหตุเรื่องทัพเชียงตุง.
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ไทย. กรมพระดำรงราชานุภาพ ได้รวบรวมเนื้อหาหนังสือเล่มนี้มาจาก จดหมายเหตุ ครั้งกรมหลวงวงษาธิราชสนิท เสด็จยกกองทัพไปตีเมืองเชียงตุง ที่มีอยู่กว่า 10 เล่ม มาตรวจดู เห็นว่าพอจะเลือกคัดเรียบเรียงให้เนื้อหาเรื่องราว ต่อกันได้ อีกทั้งยังถือว่าเป็นเรื่องสำคัญใน พระราชพงษาวดารเรื่องหนึ่ง แต่ยังมี ผู้รู้เรื่องจริงน้อย และมักพูดกันไปทางติเตียน เพราะตีเมืองเชียงตุงไม่ได้ครั้งนั้น เลยพาให้เป็นข้อเข้าใจว่ามีความเสื่อมเสียอยู่ในกรมหลวงวงษาฯแต่เมื่อรวบรวมดู จึงพบกับสิ่งตรงข้ามกับที่ได้ยินมา โดยได้เห็นพระอุตสาหะพากเพียรของ กรมหลวงวงษาฯ ที่ทรงพยายามในครั้งนั้นมาก ที่ตีไม่ได้เมืองเชียงตุงเพราะ เหตุอื่น คือ เพราะรัฐบาลที่กรุงเทพฯ หย่อนความรู้เรื่องภูมิแผนที่เป็นต้น มิใช่ความผิดของแม่ทัพนายกองที่ยกไป อีกประการ ๑ เห็นว่า เรื่องราวที่ปรากฎ ในหนังสือเล่มนี้ ประกอบด้วยคติอันควรรู้ ทั้งฝ่ายราชการพลเรือนและราชการทหาร จึงได้รวบรวมจดหมายเหตุเรื่องทัพเชียงตุง และตีพิมพ์ขึ้น
ไกรศรี นิมมานเหมินท์. 2503. เครื่องถ้วยสันกำแพง. เชียงใหม่ :
คนเมืองการพิมพ์. หนังสือเครื่องถ้วยสันกำแพงเล่มนี้ เป็นหนังสือที่ระลึกเนื่องในวัน ทำบุญวันเกิดของ นายกี นิมมานเหมินท์ ซึ่งมีอายุครบ 6 รอบบริบูรณ์ (72 ปี) ในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2503 เนื้อหาของหนังสือมีทั้งภาคภาษาไทย และภาษาอังกฤษ โดยกล่าวถึงการค้นพบเตาเครื่องถ้วยเคลือบ อันเป็นที่มาของ เครื่องถ้วยสันกำแพง , ศิลาจารึกของหมื่นดาบเรือน, เศษเครื่องลายครามจีนสมัย ราชวงศ์หมิง, ลักษณะของเตา, ทำเลที่ตั้งของเตา, ลักษณะเครื่องถ้วยสันกำแพง, , เตาเครื่องถ้วยแห่งอื่น ๆ ในภาคเหนือ และประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับ เครื่องถ้วยสุโขทัย ส่วนท้าย ของเล่มเป็นภาพประกอบ
มงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ. 2472. ลิลิตพายัพ. กรุงเทพฯ :
โรงพิมพ์หนังสือพิมพ์ไทย. ลิลิตพายัพ เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชนิพนธ์ไว้เมื่อปี พ.ศ. 2448 ขณะนั้นยังดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรม โอรสาธิราช ในปีนั้นการได้มีการสร้างรถไฟสายเหนือสำเร็จจนถึงเมืองนครสวรรค์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ได้เสด็จไปเปิดรถไฟที่สถานีบ้านพาชี แล้วเลยเสด็จประพาสเมืองลพบุรี และมณฑลนครสวรรค์และในการเสด็จเปิดทาง รถไฟนี้ได้โปรดฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เสด็จไปประพาสหัวเมืองมณฑล พายัพโดยมีพระราชประสงค์จะให้ทรงคุ้นเคยกับราชการหัวเมืองประเทศราชที่ห่างไกล ไว้ด้วย เมื่อทรงพระราชนิพนธ์และจัดพิมพ์นั้น มีพระราชประสงค์จะมิให้คนทั้งหลาย ถือว่าเป็นหนังสือทรงแต่งในทางราชการ จึงใช้พระนามแฝงว่า หนานแก้วเมืองบูรพ์
หนังสือลิลิตพายัพ ฉบับปีพิมพ์ 2472 นี้ เป็นการจัดพิมพ์เนื่องในการกุศล เมื่อพระตำรวจเอก เจ้าพระยาราชศุภมิตร ถึงอสัญกรรม ณ วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2472 โดยคณะเจ้าภาพงานศพ ได้ขออนุญาตจากราชบัณฑิตยสภาจัดพิมพ์หนังสือแจกเป็นที่ ี่ระลึกและได้รับอนุมัติจากกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งเป็นนายกราชบัณฑิตยสภา ในขณะนั้น ให้ดำเนินการจัดพิมพ์ได้.
McGilvary, Daniel. 1912. A Half Century Among the Siamese
and the Lao. New York : Fleming H. Revell. หนังสือ A Half Century Among the Siamese and the Lao เป็นอัตชีวประวัติของ Daniel McGilvaryซึ่งเป็นมิชชันนารี สังกัดคริสตจักร เพรสไบทีเรียนแห่งสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และเป็นมิชชันนารีคนแรก ที่เข้ามาเผยแพร่คริสตศาสนาในเชียงใหม่ หนังสือเล่มนี้เป็นอัตชีวประวัติตั้งแต่ เป็นเด็กจนกระทั่งได้รับมอบหมายให้มาทำงานในประเทศไทย ตั้งแต่ ค . ศ .1858 จนถึงเสียชีวิตในปี ค . ศ .1911 Daniel McGilvary เริ่มงานที่กรุงเทพฯจากนั้นจึง ย้ายไป เพชรบุรีและเชียงใหม่ตามลำดับ หนังสือเล่มนี้ท่านได้เรียบเรียงขึ้นเองจาก ประสบการณ์ชีวิต ผู้อ่านจะได้รับความรู้เกี่ยวกับการเดินทางล่องลำน้ำปิง สภาพภูมิประเทศ ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ความสัมพันธ์กับเจ้านาย ข้าราชการ และชาวต่างประเทศอื่น ๆ หนังสือเล่มนี้ยังเป็นคู่มือที่ดีมากในการศึกษาเรื่องราวประวัติ การก่อตั้งคริสตจักรในภาคเหนือ บทบาทของมิชชันนารีในการจัดการศึกษาด้านการแพทย์ ในภาคเหนือการเผยแพร่ศาสนาไปสู่ท้องถิ่นและดินแดนประเทศที่ใกล้เคียง รวมทั้ง ความเป็นอยู่และประเพณีความเชื่อถือ และสภาพสังคมต่าง ๆ ในแต่ละท้องถิ่น พร้อมทั้ง มีภาพประกอบเป็นภาพถ่ายที่สวยงาม
Wood, W.A.R. 1935. Land of Smiles. Bangkok :
Krungdebarnagar Press . หนังสือ Land of Smiles เขียนโดย W.A.R. Woodซึ่งเป็นอดีตกงสุล อังกฤษประจำเชียงใหม่ ได้เขียนเรื่องราวซึ่งเขาเองบอกว่าไม่ได้เป็นเชิงวิชาการแต่เป็น เรื่องเบ็ดเตล็ดต่างๆเกี่ยวกับวงการทูต และสิ่งที่พบเห็นระหว่างที่เป็นกงสุลอยู่ที่เชียงใหม่ ได้แก่ ชีวิตผู้คนทั้งชาวท้องถิ่น และชาวต่างชาติ วัฒนธรรมประเพณีความแตกต่างระหว่าง เชื้อชาติ และวัฒนธรรม รวมทั้งเรื่องขำขันต่าง ๆนอกจากนี้ยังให้ความรู้ในเรื่องการทำป่าไม้ ในภาคเหนือและการเลี้ยงช้าง ภายในเล่มมีภาพถ่ายประกอบจำนวนมากที่ถ่ายโดยมิชชันนารี ชาวอเมริกัน
Chinese. Cedar Rapids, IA : Torch Press. หนังสือ The Tai Race หรือชนชาติไทนี้ เป็นหนังสือที่นิยมนำมาใช้ อ้างอิงในด้านความเป็นมาของชนชาติไทเป็นเวลานานแล้ว ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ คือ William C . Dodd เป็นมิชชันนารีจากคริสตจักรเพรสไบทีเรียน แห่งสหรัฐอเมริกา ประจำอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ได้เดินทางไปสำรวจดินแดนที่อยู่เหนือประเทศไทย ขึ้นไป เพื่อไปเผยแพร่คริสตศาสนาแก่กลุ่มชนที่ใช้ภาษาตระกูลไท Dr.Dodd ได้แบ่ง ชาวไทเผ่าต่างๆ ที่เขาได้ไปสำรวจนี้ ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มที่มีภาษาเขียน เป็นของตนเอง และกลุ่มที่ไม่มีภาษาเขียนเป็นของตนเอง การเดินทางของ Dr.Dodd เริ่มตั้งแต่ปี 1910 1913 โดยทางม้าและทางเดินเท้า ผ่านเชียงรายสู่เชียงตุงในพม่า แล้วเข้าไปยังสิบสองปันนา และส่วนอื่น ๆ ของมณฑลยูนนานในจีนตลอดจนถึง มณฑลกวางตุ้ง กวางสี ตังเกี๋ย และทางตอนเหนือของแคว้นอินโดจีนของฝรั่งเศสด้วย Dr.Dodd ได้รายงานผลการสำรวจชาวไทเผ่าต่าง ๆ ซึ่งรวมทั้งคนไทยในประเทศไทยด้วย โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นอยู่และประเพณีความเชื่อทางศาสนาและภาษาที่ใช้ นอกจากนี้ยังมีแผนที่ และตารางเปรียบเทียบภาษาของชาวไทเผ่าต่างๆ รวมทั้งประวัติ ความเป็นมาในส่วนที่กล่าวถึงประเทศไทย อีกทั้งยังให้ความรู้เรื่องการศึกษา และคริสตจักรอีกด้วย
Griswold, A.B.. 1957. Dated Buddha Images of Northern Siam.
Ascona : Artibus Asiae Publishers. หนังสือเล่มนี้รวมรวบโดย A.B . Griswold เป็นหนังสือที่รวบรวมภาพ คำอธิบายพระพุทธรูป ที่เป็นศิลปะแบบภาคเหนือ ทั้งศิลปะเชียงแสน พระสิงห์แบบต่าง ๆ รวมทั้งศิลปะแบบผสม พร้อมด้วยขนาด ความเป็นมา คำจารึกใต้ฐานพระพุทธรูป ปีที่สร้าง และที่ประดิษฐานในปัจจุบัน ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษา เรื่องพระพุทธรูปในประเทศไทย และประวัติศาสตร์ศิลปกรรมในแนวพุทธศาสนา
|